10 ที่พักริมน้ำใกล้กรุงเทพฯ 2022 ที่ควรไปพักหัวใจให้ฟูพอง

รวม 8 ที่พักริมน้ำใกล้กรุงเทพ ฉบับสายกรีนที่หาเวลาหยุดยาก ได้ไปพักหัวใจให้ฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า

ด้วยมนตราจากธรรมชาติ  เพียงแค่ไปนั่งเหม่อ ๆ อยู่ริมน้ำ ก็เหมือนได้ชาร์จขุมพลังแห่งความสุข กลับมาสนุกกับการทำงานกันต่อ

มาดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง

 

      ยาวไปเลือกอ่าน

  1. ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท อัมพวา

  2. อิงนที รีสอร์ท, จ.ปทุมธานี

  3. บ้านตานิด ริเวอร์ ลอดจ์, จ.ปทุมธานี

  4. บ้านย่า โฮมสเตย์, เกาะเกร็ด

  5. บางกอกทรีเฮ้าส์, จ.สมุทรปราการ

  6. ชาน’เล รีสอร์ท, จ.สมุทรสาคร

  7. The Legend Maeklong จ.สมุทรสงคราม

  8. ก้านเหลืองโฮม พระนครศรีอยุธยา

  9. เรือนลำพู โฮมสเตย์, ฉะเชิงเทรา

  10. Amphawa Caza Platuu, อัมพวา

 

1 .ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท อัมพวา

รีสอร์ทริมแม่น้ำแม่กลอง ใกล้ตลาดน้ำอัมพวา ที่มีบริการครบครัน พร้อมด้วยส่วนประชุม ห้องอาหารและสปา ภายใต้แนวคิดบ้านหลังที่ 2 สถาปัตยกรรมการตกแต่งพื้นที่ รวมถึงห้องพัก 42 ห้องและวิลล่า 18 หลัง จึงให้แรงบันดาลใจแห่งชีวิตผ่อนคลายจากสังคมเมือง แต่ไม่ห่างไกลความสะดวกสบาย

ห้องพักที่โรงแรมมีเครื่องปรับอากาศ พื้นที่นั่งเล่น โทรทัศน์จอแบนพร้อมระบบช่องสัญญาณดาวเทียม ตู้เซฟ และห้องน้ำส่วนตัวพร้อมพื้นที่ฝักบัว เสื้อคลุมอาบน้ำ และรองเท้าแตะ ห้องพักแต่ละห้องที่ Na Tree Tara Riverside Resort มีชุดเครื่องนอน และผ้าขนหนู

เติมเต็มความประทับใจแห่งการพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ รีแลกซ์แนบชิดธรรมชาติริมสายน้ำแม่กลอง @ ณ ทรีธารา อัมพวา ที่นี่เราทำให้วันธรรมดาเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสุดพิเศษของคุณและคนที่คุณรัก

ราคาคืนละ 3,500 บาท

รับส่วนลดพิเศษ https://bit.ly/3Adw48Q

 

 

2 .อิงนที รีสอร์ท, จ.ปทุมธานี

นั่งเหม่อริมเจ้าพระยา พักหายใจให้จังหวะชีวิตคุณช้าลง  หลีกหนีจากเมืองกรุงอันปั่นป่วน ที่ อิงนที รีสอร์ท จ.ปทุมธานี รีสอร์ทเล็ก ๆ สไตล์ทรอปิคอล โทนสีเหลืองนวล การประดับตกแต่งเน้นวัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก

โดยมีห้องพักทั้งหมดราว 10หลัง ถูกสร้างให้ล้อมรอบสระบัว  ส่วนอีกด้านจะเป็นวิวสวนสีเขียวๆ ชวนมองสบายตา  ตัวรีสอร์ทตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยานี้จะมีศาลาริมน้ำให้เรานั่งพักผ่อนรับลมเย็น ๆ ชมวิวท้องคุ้งกว้างโอบอ้อม

ไปด้วยบ้านเรือนริมน้ำของชาวปทุมธานี อดีตเส้นทางค้าขายของชุมชนชาวไทยมอญ ช่วงเย็น ๆ จะเป็นช่วงเวลา Prime time ของศาลาริมน้ำเลย เพราะเราจะได้ชมพระอาทติย์ลับขอบฟ้าอย่างงดงาม จนไม่คิดว่า

เพียงขับรถจากกรุงเทพออกมาเพียง 40 นาที เราจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามขนาดนี้

อิงนที รีสอร์ท มีกิจกรรมเพื่อสุขภาพต่างๆภายในรีสอร์ทหลายอย่างมากไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมว่ายน้ำในสระว่ายน้ำกลางแจ้งริมฝั่งเจ้าพระยา ปั่นจักรยานเที่ยวชมชุมชน, ชมฟาร์มเห็ด, ฟาร์มไส้เดือน, ฟาร์มไก่อารมณ์ดี,

สวนผักสวนครัวเพื่อสุขภาพ และอาหารของที่นี่อร่อยและสดมากโดยเฉพาะเมนูเห็ดที่ทางรีสอร์ทปลูกเอง มันหวาน กรอบ จริง ๆ หากใครได้ไปพัก อย่าลืมลองชิมกันนะคะ

สนใจเดินทางพักหัวใจที่ อิงนที รีสอร์ท  ติดต่อตามนี้ได้เลย

รับส่วนลดพิเศษ https://bit.ly/2YXOqNS

 

 

3. บ้านตานิด ริเวอร์ ลอดจ์, จ.ปทุมธานี

พาตัวเองกลับไปย้อนเวลาของชุมชนริมน้ำสมัยอดีตกับบ้านไม้สุดสวยสไตล์วินเทจอายุมากกว่า70 ปี  บ้านทั้งหลังถูกออกแบบให้เป็นโทนเขียวขาวแบบพาสเทล ดูแล้วสบายตา ยิ่งระหว่างทางเดินจากรั้วประตูบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้

ยิ่งขับกล่อมให้บ้านไม้หลังนี้ดูอบอุ่นและอ่อนโยนมาก ๆ ภายในบ้านมีมุมน่ารักๆ ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรือไอเทมเก่าๆ มีความเป็นโฮมมี่ ราวกับว่าเราพาตัวเองไปเที่ยวบ้านคุณปู่ คุณย่า กันเลยทีเดียว

ที่นี่มีห้องพักให้บริการเพียง 8 ห้อง แบ่งออกเป็นโซนริมสวน  ริมตลิ่ง และริมแม่น้ำ  ซึ่งแต่ละห้องก็จะถูกตกแต่งให้แตกต่างกันออกไป  รวมถึงราคาก็แตกต่างกันด้วย ไฮไลท์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นท่าน้ำแสนคลาสสิคที่ชวนให้เรา

กลายเป็นสาวน้อยบ้านนาที่มานั่งเอนหลังกับหมอนสามเหลี่ยมรับลมเย็น พลางเฝ้ามองเรือที่แล่นผ่านไปลำแล้วลำเล่าตามโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีฉากบ้านเรือนริมน้ำอยู่เบื้องหลัง   หรือใครสายบุญจะตื่นเช้ามาตักบาตรพระที่ท่าน้ำ

ก็ให้ความรู้สึกฟีลกู้ดดีนะคะ

อีกหนึ่งอย่างที่เด็ดมาก ๆ ของบ้านตานิด คือร้านอาหารริมน้ำ  บริการอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน กลมกล่อมถึงรสถึงเครื่องแบบไทยแท้ โดยเฉพาะเมนูกุ้งแม่น้ำนี่ไม่อยากให้พลาดกันเลยทีเดียว

สำหรับใครที่อยากไปพักใจในบรรยากาศเรโทร  ติดต่อตามนี้ได้เลย

facebook : https://www.facebook.com/Baantanid/

Tel. : 081 835 0660

 

 

4. บ้านย่า โฮมสเตย์, เกาะเกร็ด

พาหัวใจไปพักจากเมืองกรุงได้ง่าย ๆ ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน ที่ บ้านย่า โฮมสเตย์ เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี   บ้านย่า โฮมสเตย์เป็นบ้านไม้หลังเก่าริมน้ำเจ้าพระยาสไตล์ไทยมอญสองชั้นแสนอบอุ่นที่ชวนให้เหมือนเรากลับไปเยี่ยมคุณย่า

ภายในบ้านถูกตกแต่งด้วยไอเทมสมัยคุณย่าสุดคลาสสิคและน่ารัก  ห้องพักจะมีทั้งแบบ ห้องแอร์ ห้องแอร์ริมน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัว และห้องแอร์สำหรับพัก 3-4 ท่าน  ด้านข้างตัวบ้านมีบึงบัวให้นั่งเล่น

ช่วงเย็นๆ หรือช่วงเช้าแวะมานั่งเหม่อ ๆ ชมแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอื่อย ๆ ที่ศาลาท่าน้ำก็เพลินดี ชวนให้หัวสมองเราเบาหวิว  แต่ถ้าใครเป็นสายใช้พลังงานหน่อย ที่บ้านคุณย่าเขาก็มีจักรยานให้ปั่นเที่ยวรอบเกาะเกร็ดฟรี

อาหารเช้าที่นี่เขาเสิร์ฟใส่ปิ่นโตแบบเก๋ให้ถึงหน้าห้องด้วยนะ

สำหรับใครที่อยากไปพักใจในบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของคุณย่า  ติดต่อตามนี้ได้เลย

ราคาคืนละ 1000 บาท

รับส่วนลดพิเศษ https://bit.ly/3lKFrY9

 

5. บางกอกทรีเฮ้าส์, จ.สมุทรปราการ

ที่พักสุดอีโคแนวโมเดิร์นโดยมีรังนกเป็นแรงบันดาลใจ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่งเป็นหลัก ตัวรีสอร์ทติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และถูกล้อมรอบด้วยป่าจาก ต้นลำพู แล้วต้นไม้นานาชนิดมากมายนับไม่ถ้วน จึงไม่น่าแปลกใจที่ระหว่างวันเราจะพบนกน้อยหลากชนิดแวะบินมาส่งเสียงทักทายระหว่างที่เรากำลังจิบกาแฟ 

เรียกได้ว่าเป็นที่พักสายกรีนแบบขั้นสุด ตัวอาคารดีไซน์เน้นรับพลังงานจากธรรมชาติอย่างขีดสุด เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยือนยังที่แห่งนี้ได้รีชาร์จความสุขออกไปได้อย่างเต็มที่ 

ที่นี่มีห้องพัก 4 แบบ 11 ห้อง ภายในมาสไตล์แบบโมเดิร์นผสมกับงานคราฟท์ได้อย่างลงตัว  ด้านบนมีดาดฟ้าที่อยู่สูงเหนือต้นไม้ ให้เราชมวิวป่า แม่น้ำ เรือที่แล่นไปมา หรือพระอาทิตย์ก่อนลาลับขอบฟ้า

นอกจากนี้ บางกอกทรีเฮ้าส์ ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการอีกด้วย  วัตถุดิบเน้นเป็นแบบออแกนิค สายรักสุขภาพแบบเน้นพลังจากธรรมชาติร้องว้าวแน่นอน

สำหรับใครที่อยากไปนอนพักท่ามกลางไออุ่นจากธรรมชาติ ติดต่อตามนี้ได้เลย

ราคาคืนละ 3500 บาท

รับส่วนลดพิเศษ https://bit.ly/3AHyf4E

 

 

6. ชาน’เล รีสอร์ท, จ.สมุทรสาคร

นั่งเหม่อ ๆ สัมผัสวิวทะเลแบบ 180 องศา ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบของทะเลอ่าวไทยได้ในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพ ที่ ชาน'เล รีสอร์ท  จ.สมุทรสาคร  ที่พักแนบชิดทะเลให้เราได้ดูเส้นขอบฟ้าแสนกว้างตัดกับ

ท้องทะเลสีเขียวครามอย่างไม่มีอะไรบดบัง  ภายในห้องดีไซน์ให้เป็นโทนสีเขียวขาว  ดูสบายตา  มีระเบียงกว้างยื่นไปในทะเลทั้ง 30  กว่าห้อง  เพื่อให้เราได้รับการโอบกอดจากทะเลถึงขีดสุด

มาพักริมทะเล ก็ไม่ควรพลาดอาหารทะเลสด ๆ ที่ ชาน'เล รีสอร์ท มีบริการร้านซีฟู้ดรสแซ่บ คัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งธรรมชาติโดยตรง ในราคามิตรภาพ สามารถให้นำไปเสิร์ฟถึงห้องพักได้เลย  หรือจะไปนั่งทานบริเวณโซนร้านอาหาร

ก็วิวสวยสุด ๆ

สำหรับใครที่อยากไปนอนพักให้ทะเลโอบกอด ติดต่อตามนี้ได้เลย

facebook : https://www.facebook.com/chanleresort/

line ID : @chanleresort

Tel. : 081-641-7191

 

 

7. The Legend Maeklong สมุทรสงคราม

The Legend Maeklong เป็นที่พักสไตล์บูทีคที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6  และนับได้ว่าเป็นตึกปูนแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางเรือนแถวบ้านไม้ในย่านแม่กลอง  เดิมที่นี่เป็นบ้านของ

ขุนทวีราชทรัพย์ (ผัน โกมลมน) พระคลังข้างที่ประจำเมืองราชบุรีที่รับหน้าที่เก็บภาษีเรือ ช่างฝีมือชาวจีนออกแบบให้บ้านมีสองชั้นผสมสไตล์ตะวันตก ประตูหน้าต่างประดับโค้งลายฉลุงดงามตามที่นิยมกันในสมัยนั้น

ตัวบ้านหันหน้าสู่แม่น้ำแม่กลองอย่างโอ่อ่าและสวยงาม  ภายในอาคารตึกปูนโบราณที่เป็นโซนรับแขก จะมีเฟอร์นิเจอร์เก่าตกแต่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ เครื่องเล่นแผ่นเสียง ตุ๊กตาฝรั่ง ซึ่งข้าวของแต่ละชิ้น

ให้ความรู้สึกราวกับเราได้มาบ้านญาติผู้ใหญ่ใจดีที่ภูมิฐานสุด ๆ

นอกจากที่พักที่เป็นตึกขาวแล้ว ยังมีโซนบ้านพักที่เป็นเรือนไทยรัตนโกสินทร์ 2 หลัง ชื่อเรือนอัมพวาและเรือนบางคนที และห้องพักอีก2หลังที่ออกแบบสไตล์โมเดิร์นสุดเรียบง่าย อาคารทุกหลังล้อมด้วยต้นไม้มากมาย ให้ความรู้สึกร่มรื่นเขียวฉ่ำ

แต่จุดที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่เลยก็คือ ศาลาท่าน้ำ ที่คู่รักหลายคู่ และคนโสดหลายคนต้องมานั่งชมวิว รับลมเย็น ๆ ชมบรรยากาศสายน้ำและบ้านเรือนไม้อย่างเงียบ ๆ และถ้าใครหิวแล้วก็สามารถสั่งอาหารมานั่งทานระหว่างชมวิวยามเย็น

กันก็ได้  ที่ร้านอาหารบ้านขุนทวี รับวัตถุดิบสดใหม่จากแม่กลองเพื่อมารับรองแขกของ The Legend โดยเฉพาะ เมนูแนะนำ Signature ของที่นี่คือปลาทูต้มมะดัน ปลาหมึกผัดกะปิ ปลาทรายทอดขมิ้น รสชาติอร่อยสไตล์ไทยแบบดั้งเดิม

ของคนย่านแม่กลอง

สำหรับใครที่อยากไปนอนพักริมแม่น้ำสไตล์ย้อนยุค ติดต่อตามนี้ได้เลย

website : https://thelegendmaeklong.com/

Tel. : 091-803-7029

 

 

8. ก้านเหลืองโฮม พระนครศรีอยุธยา

ที่พักสุด Slowlife และเงียบสงบริมแม่น้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา  บริเวณรอบ ๆ บ้านโอบล้อมด้วยสนามหญ้าสีเขียว และต้นก้านเหลืองหรือกระทุ่มน้ำชวนให้ดูร่มรืนสบายตา ห้องพักดีไซน์ออกเป็นสไตล์ Loft ที่ดูเรียบง่าย

แต่มีความเท่ เน้นใกล้ชิดธรรมชาติ หน้าต่างของแต่ละห้องจะเป็นกระจกบานใหญ่เพื่อให้เราได้มองเห็นวิวแม่น้ำ และต้นก้านเหลืองที่แผ่กิ่งก้านเขียวชะอุ่มได้จากที่ห้องเลย  และที่สำคัญที่นี่ออกแบบให้มีแสงตกกระทบที่สวยมาก 

ชวนให้ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย  จะนั่งทำงาน หรือยื่นเหม่อ ๆมองวิวแม่น้ำจากห้องก็ชวนให้รู้สึกใจฟูพอง 

ใครที่กำลังเครียด ๆ แนะนำอย่าพลาดมุมชานริมน้ำของที่นี่เด็ดขาด  เพราะมันทรงพลังมากไม่ว่าจะได้ความสงบเย็นจากสายน้ำ ยังได้ความสบายใจจากต้นก้านเหลืองอีกด้วย  เราสามารถมานั่งเอนหลังเหม่อ  ๆ  หรือไกวชิงช้าเบาๆ อ่านหนังสือไปพลางๆ

ก็ชวนให้จังหวะหัวใจเราเต้นช้าลง  นอกจากนี้ที่นี่เขายังอนุญาตให้เราพาน้องๆสุนัขของเราไปพักด้วยกันได้อีกด้วย

สำหรับใครที่อยากไปนอนพักริมแม่น้ำ Retreat ความเครียด ติดต่อตามนี้ได้เลย

ราคาคืนละ 4500 บาท

รับส่วนลดพิเศษ https://bit.ly/3nPekxN

 

 

9. เรือนลำพู โฮมสเตย์, ฉะเชิงเทรา

เอนกายพักใจท่ามกลางผืนป่าต้นลำพูที่โอบล้อมบ้านพักสไตล์บาหลี ที่ออกแบบให้เราใกล้ชิดกับต้นไม้และแม่น้ำบางปะกงให้มากที่สุดชนิดที่พอวางกระเป๋าที่ห้องพักปุ๊ป ก็สูดหายใจเอาอากาศดีๆ เข้าปอดกันได้เต็มที่

บ้านแต่ละหลังจะมีท่าน้ำยื่นออกมาให้เราเดินออกไปนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำชมวิวสายน้ำไหลเอื่อย ๆ แบบส่วนตัวได้เลย  ตัวที่พักถูกสร้างขึ้นเหนือน้ำเพราะแม่น้ำบางปะกงจะมีน้ำขึ้น-ลง ตามธรรมชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของ

เรือนลำพู โฮมสเตย์ ที่พิเศษกว่าที่พักริมน้ำอื่น ๆ

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่ให้บริการอีกด้วย  เราสามารถมาพักและฝากท้องกับที่นี่ได้เลย  ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

 

สำหรับใครที่อยากไปนอนพักเอกเขนกริมแม่น้ำบางปะกง ติดต่อตามนี้ได้เลย

Facebook : https://www.facebook.com/Lamphuhome/

Tel. : 091 446 6522

 

10. Amphawa Caza Platuu

Amphawa Caza Platuu ออกแบบและตกแต่งที่พักสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและป๊อปอาร์ต การบูรณะวัสดุเหลือใช้และการเลือกเฟอร์นิเจอร์โบราณและของสะสมจากอดีตและยุคต่างๆ ที่มีอยู่ และใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าโดยไม่สูญเปล่า ผ่านกระบวนการรีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่ คิดใหม่ และแปรรูป

คุณจะได้ในสิ่งที่ชอบและทำได้ ใช้งบประมาณของคุณเพื่อสร้างความฝัน เหมาะสมแล้ว บ้านย้อนยุคจึงมีกลิ่นอายของวันวานและศิลปะ

รับส่วนลดพิเศษ https://bit.ly/3zfv7xE

 

 

6 ที่เที่ยวสมุทรปราการ และคาเฟ่ร้านอาหารวิวปังสุดร่มรื่น 2021 ที่สายรักต้นไม้ต้องชอบ