5 ที่พักสังขละบุรี สไตล์มินิมอล สุดเรียบง่าย ที่สายกรีนต้องหลงรัก 2021
"สะพานไม้ ด่านเจดีย์ นทีสามประสบ มรดกทุ่งใหญ่ ไทย กระเหรี่ยง รามัญ สารพันธรรมชาติ อภิวาทหลวงพ่ออุตตมะ เมืองสังขละชายแดน สุดแคว้นตะวันตก" นี่คือคำขวัญของดินแดนแห่งเมืองสามหมอกฝั่งตะวันตกของไทย ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมของทั้งไทย มอญ และกระเหรี่ยง
จุดเช็คอินที่ทุกคนมาเยือนสังขละบุรีต้องมาคือ สะพานไม้อุตมานุสรณ์ ซึ่งเป็น สะพานไม้ที่ยาวที่สุดอันดับ2ของโลกแห่งนี้ ในขณะเดียวกันเราก็จะได้สัมผัสวัฒนธรรมชาวมอญ สาวมอญปะแป้งขาว เทินของไว้ที่หัวเดินข้ามไปมาอย่างใกล้ชิด และนอกจากนี้เรายังสามารถเช่าชุดมอญมาตักบาตรยามเช้าเพื่อรับประสบการณ์วิถีชีวิตยามเช้าของชาวมอญได้อย่างแนบชิด
ระยะเวลาที่ค่อนข้างดีในการไปเยือนดินแดนสังขละบุรีคือ 2 วัน 1 คืน ดังนั้นการได้นอนพักผ่อนซึมซับสามวิถีชีวิตสามวัฒนธรรม จะทำให้เรารู้จักสังขละบุรีมากขึ้น
ที่พักสังขละบุรี ที่ให้เลือกค่อนข้างหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ที่พักแบบแพ เกสต์เฮ้าส์ รีสอร์ทริมน้ำ ลานจุดกางเต็นท์ ฯลฯ ซึ่งเราสามารถเลือกรูปแบบที่พักได้ตามไลฟ์สไตล์ที่เราชอบ หรืองบประมาณที่เรามี
แต่วันนี้เราจะมาขอแนะนำ 5 ที่พักสังขละบุรี สไตล์มินิมอล สุดเรียบง่าย และใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบไลฟ์สไตล์ชิลล์ ๆ ผ่อนคลายกับธรรมชาติอย่างไร้กรอบเวลา
1 Haiku Guesthouse
สงบ เงียบ เรียบง่าย เป็นแนวคิดหลักในการดีไซน์ที่พักแห่งนี้วัสดุหลักของที่พักจึงล้วนทำมาจากไม้ ไม่ว่าผนังที่ทำมาจากไม้ไผ่สาน ลานนั่งพักผ่อนเป็นไม้สีเข้มที่ช่วยขับให้ตัวผนังของที่พักดูเด่นสวยงาม ชวนให้รู้สึกสบายตา ผ่อนคลาย แถมบริเวณส่วนกลางที่พักยังเป็นโถงโล่งๆ มีเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งจิบชา กาแฟ ชมธรรมชาติรับลมชิลล์ ๆ
บริเวณประตูทางเข้า ด้านในมีต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาและสะพานไม้ไผ่ดูบรรยากาศเหมือนญี่ปุ่นมาก ๆ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าที่พักยังมี Kaf kafe คาเฟ่น่ารักๆ ให้เราสั่งกาแฟ เครื่องดื่มอร่อยๆให้ลองอีกด้วย
2 ฟอร์เกทมีนอต เฮ้าส์ รีสอร์ท สังขละบุรี (Forget Me Not House Resort)
Forget me not "อย่าลืมฉัน"
ที่พักคอนเซปแสนหวานที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคจากวิวแม่น้ำซองกาเรีย และสะพานไม้อุตตมะ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใกล้ชิดธรรมชาติ มีลานนั่งชมพพระอาทิตย์ขึ้นและตกยังแม่น้ำ ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย เงียบ สงบ มีบริการทั้งบ้านหลังใหญ่ บ้านหลังเล็กและห้องพักริมแม่น้ำ
และสายคาเฟ่ก็ไม่ควรรพลาดกับคาเฟ่ที่รีสอร์ทแห่งนี้ ชื่อคาเฟ่ว่า “Green Cafe” อยู่ติดแม่น้ำและมองเห็นสะพานมอญบรรยากาศดีมากๆ เครื่องดื่มและเบเกอรี่ทางร้านเป็นสไตล์Homemade เจ้าของร้านทำเองเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ รสชาติอาหารและขนมจึงมีรสชาติที่อร่อยมาก แถมราคาไม่แพงมากด้วย มุมถ่ายรูปเยอะสวยๆ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้มีเยอะมาก
3 บ้านมอญซอย 7
“บ้านมอญซอย7 สังขละบุรี” บ้านพักสวย สไตล์บ้านมอญ มีกลิ่นอายความเป็นวินเทจอยู่ค่อนข้างมาก ภายในห้องพักดูสะอาด สบายตา ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ถ่ายรูปสวยแทบทุกมุม พนักงานของที่นี่ทุกคนเป็นชาวมอญ ให้บริการดีมาก
บ้านพักแห่งนี้อยู่ใกล้กับสะพานมอญเพียง 200 เมตร ตรงจุดนี้ถ้าใครอยากใส่บาตรตอนเช้า ให้แจ้งกับพนักงานว่าต้องการใส่ชุดมอญตักบาตร ซึ่งที่นี่มีให้บริการฟรี สำหรับผู้ที่พักที่นี่
4 ชาโต เดอ สังขละบุรี
รีสอร์ทสไตล์เจ้าหญิงที่ตกแต่งสไตล์ยุโรปทั้งด้านนอกและด้านใน โดดเด่นด้วยอาคารสีส้มที่อยู่ท่ามกลางสายหมอก ขุนเขา และร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ ชวนให้คุณรู้สึกว่าได้กลายเป็นเจ้าหญิงในนิยายตามที่เราชอบเมื่อตอนเด็กๆ ได้อย่างเต็มเปี่ยม
ตัวห้องพักสะอาด ตกแต่งสวย พนักงานบริการใส่ใจดี ตั้งอยู่ห่างจากถนนคนเดินไม่มากนัก มีห้องพักให้เลือก 3 ขนาดแล้ว
ยังมีที่พักแบบเต็นท์ให้บริการอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศเย็นสบายในเวลากลางคืนที่สุด
5 สังขละคีรี รีสอร์ท
เป็นรีสอร์ทตั้งอยู่บนเนินเขา ห่างจากสะพานมอญไม่ไกล มีจุดเด่นที่วิวภูเขาและหมอกตอนเช้า เหมาะกับการเดินสูดอากาศให้เต็มปอด บรรยากาศดี เงียบสงบ เพราะอยู่ห่างจากชุมชน จึงมองไม่เห็นวิวแม่น้ำหรือสะพานมอญ แต่นั่งรถจากเมืองสังขละบุรีขึ้นมารีสอร์ทเพียง 5 นาทีเท่านั้น
สังขละคีรี รีสอร์ท ดีไซน์เป็นสไตล์ลอฟท์ ทั้งภายนอกและภายใน ด้านในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ มีทั้ง แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ครบสะดวกสบาย wi-fiฟรี
มีที่จอดรถสะดวกสบาย ไม่ต้องไปแออัดแถวบริเวณสะพาน นับได้ว่าเป็นที่พักสังขละบุรีอีก 1 สไตล์ที่ควรพลาดจริง ๆ
