12 ที่กางเต็นท์เชียงใหม่ สุดโรแมนติก 2022

ที่ควรพาคนรู้ใจไปกอดให้หายหนาว

 

เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่ให้ชวนให้หัวใจของใครหลายๆ คนรู้สึก Feel good โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว

ลมหนาวพัดโชยมาจางๆ ชวนให้คนหลายคนที่อยากชวนคนรู้ใจพากันไปกอดให้ไออุ่นกันที่เชียงใหม่  และคงไม่ไม่มี

กอดไหนจะโรแมนติคไปกว่าการได้กอดกันท่ามกลางใต้ดวงดาว ต้นไม้ และแสงอาทิตย์

 

 

      สารบัญท่องเที่ยว
  1. ม่อนล่อง

  2. ดอยค้ำฟ้า

  3. สันป่าเกี๊ยะ

  4. ดอยม่อนอังเกตุ และไร่สตรอเบอรี่  สะเมิง

  5. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)

  6. ม่อนสน อ่างขาง

  7. ป่าสนวัดจันทร์

  8. ดอยอินทนนท์

  9. ดอยชัวร์ญ่าวิวสวย

  10. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

  11. ดอยหลวงเชียงดาว

  12. ดอยผ้าห่มปก

 

1 ม่อนล่อง

กางเต็นท์นอน มองวิวทะเลดาวเมืองเชียงใหม่จากจุดชมวิว

ที่สูงที่สุดใน อำเภอแม่ริม "ม่อนล่อง" 

ม่อนล่องเป็นดอยหน้าผาสูง ตั้งอยู่ในโครงการหลวงบ้านหนองหอย เลยขึ้นไปจากม่อนแจ่ม  ที่จุดกางเต็นท์นี้ยังค่อนข้างเงียบสงบ และเพียบพร้อมไปด้วยธรรมชาติรอบตัวทั้งภูเขา ต้นไม้ สายหมอก และดวงดาว  จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับคู่รักที่ต้องการมาพักผ่อนเพื่อปลดระวางความเครียด และดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่

ช่วงที่เหมาะแก่การไปกางเต็นท์คือช่วงปลายฝนต้นหนาว และหน้าหนาว เพื่อให้เราได้สัมผัสผืนป่าสีเขียวกลางสายหมอกจางๆ


การเตรียมตัวไปตั้งแค้มป์ที่ม่อนล่องนี้ แนะนำให้เราเตรียมพร้อมอาหาร
น้ำดื่ม  อุปกรณ์การนอน อุปกรณ์ให้แสงสว่างให้พร้อม เพราะที่นี่ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก     

เราสามารถเดินทางไปกางเต็นท์ที่ม่อนล่องได้ง่าย ๆ โดยใช้เส้นทางเดียวกับที่เราไปเที่ยวม่อนแจ่ม

แต่จะมีทางแยกให้เลี้ยวขวามายังม่อนล่อง  ใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองเขียงใหม่ไม่เกิน  2 ชั่วโมง

 

2 ดอยค้ำฟ้า

กางเต็นท์นอนกลางป่าซากุระกว่า 1000 ไร่  ที่ ดอยค้ำฟ้า  จุดกางเต็นท์ในอำเภอเชียงดาว อีก 1 จุดที่เราจะได้เห็นดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม 

บรรยากาศลานกางเต็นท์ที่เงียบสงบคละเคล้ากับเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ที่บินโฉบไปมาระหว่างต้นสน และต้นพญาเสือโคร่ง ช่วงเย็นเดินออกจากลานกางเต็นท์ไปยังสวนหิน

ลานหินธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยหินก้อนเล็กใหญ่ หลากหลายรูปแบบ ถูกจัดวางให้สวยงามโดยนักออกแบบที่ชื่อว่า ธรรมชาติ  จุดนี้เป็นจุดที่เราจะได้ชมวิว ดอยหลวงเชียงดาวได้ชัดเจนและได้มุมกว้างที่สุด 

ในยามเช้าพาตัวเองไปสูดหายใจลึก ๆ ที่ กิ่วใจหาย  เราจะได้พบกับทะเลหมอกหนานุ่มสีขาวราวกับฟองนมที่ถูกตีจนฟูนุ่มในถ้วยกาแฟคาปูชิโน่  และมีฉากหลังเป็นดอยหลวงเชียงดาวอีกมุมหนึ่ง

จุดกางเต็นท์ดอยค้ำฟ้านี้ ไม่มีร้านค้าสวัสดิการ ให้บริการ เเราต้องเตรียมเสบียงและอุปกรณ์การนอนกันให้พร้อมก่อนออกเดินทางให้เรียบร้อย  ส่วนในเรื่องของห้องน้ำที่นี่มีให้บริการค่ะ ค่อนข้างสะอาดเลยทีเดียว

ใครที่สนใจไปที่นี่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ที่หน่วยยจัดการต้นน้ำแม่งายก่อนเท่านั้น เพราะเส้นทางขึ้นไปดอยค้ำฟ้านั้นต้องเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีรถของคนท้องถิ่นไว้ให้บริการ ต้องติดต่อล่วงหน้า โทร. 081 881 7346

 

3 สันป่าเกี๊ยะ

สัมผัสมนต์เสน่ห์ห้วงฝันของดอยหลวงเชียงดาวสักครั้งในชีวิตผ่านภาพสะท้อนดอยหลวงเชียงดาวที่เรามองเห็นยอดเขามงกุฎอย่างชัดเจนจาก จุดกางเต็นท์สันป่าเกี๊ยะ 

ความโรแมนติคของ จุดกางเต็นท์ แห่งนี้ คือในช่วงปลายธ.ค. - ม.ค. เหล่าดอกพญาเสือโคร่งเบ่งบานอวดโฉมสีชมพูแสนหวานตัดกับสีฟ้าสดใส โดยมีฉากหลังเป็นดอยหลวงเชียงดาว

ซึ่งเป็นภาพในฝันที่เย้ายวนใจให้คู่รักสายตั้งแค้มป์ ต้องชวนกันไปเยือนสักครั้ง

หลังจากที่กางเต็นท์เตรียมนอนรอชมเหล่าดวงดาวปรากฏกายที่ จุดกางเต็นท์สันป่าเกี๊ยะ แล้ว  อย่าลืมเดินไปเดินส่งพระอาทิตย์กลับบ้านที่จุดกางเต็นท์หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน

ซึ่งเดินไปอีกเพียงแค่ราว 200 เมตรเท่านั้น

รุ่งอรุณอีกวันรูดซิปเต็นท์นอนออกมาทักสวัสดีคุณพระอาทิตย์ที่กำลังค่อยๆ โผล่พ้นจากยอดมงกุฎดอยหลวงเชียงดาว แบบฟิน ๆ ได้เลย  ที่จุดกางเต้นท์นี้ มีห้องน้ำให้บริการ  แต่ไม่มีร้านอาหารให้บริการ 

ใครที่กำลังวางจะไปตั้งแค้มป์ที่นี่ อย่าลืมวางแผนเรื่องอาหารและถุงขยะไปด้วยนะ

การเดินทางขึ้นไปยังจุดกางเต้นท์ที่นี่ จำเป็นต้องใช้รถโฟร์วิลของชาวบ้านที่ชำนาญทางขึ้นไปจะดีกว่า  เพราะเส้นทางส่วนใหญ่ขึ้นเขาและเป็นดินโคลน 

ก่อนเดินทางไปพักควรติดต่อไปที่ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โทรศัพท์ 0 5322 2014  ก่อน เพื่อตรวจสอบว่า พื้นที่กางเต็นท์ เปิดให้บริการหรือไม่ รวมไปถึงสอบถามเรื่องรถโฟร์วิลที่พาขึ้นไปยังจุดกางเต็นท์

 

4 ดอยม่อนอังเกตุ และไร่สตรอเบอรี่  สะเมิง

กางเต็นท์นอนชมวิว 360 องศาและทะเลดาวตกที่ ดอยม่อนอังเกตุ สูงที่สุดในอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,840 เมตร จากลานกางเต็นท์เราจะมองเห็นวิวหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซอ และเผ่ากะเหรี่ยง

และหากอากาศดี ท้องฟ้าสดใสจะเห็นวิวกว้างโล่งสุดลูกหูลูกตาไปจนถึงฝั่งอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง ห้วยจ้อ ห้วยน้ำดัง ดอยหลวงเชียงดาว และดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่  โดยเฉพาะยามเช้า

ที่เราอาจจะได้เจอทะเลหมอกหนานุ่มมาทักทายถึงหน้าเต็นท์นอนเลยทีเดียว 

หากใครสนใจมากางเต็นท์นอนชมวิวที่ดอยม่อนอังเกตุนี้ ให้เตรียมอุปกรณ์การนอน  เสบียงอาหาร น้ำดื่ม อุปกรณ์ให้แสงสว่างมาให้พร้อม  เพราะด้านบนยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ๆ หลังจากนอนค้างคืนบนดอยกันมาคืนหนึ่งแล้ว

ลองเปลี่ยนบรรยากาศมากางเต็นท์นอนกลางไร่สตรอเบอรี่ก็ได้อารมณ์เจ้าของฟาร์มเหมือนกันนะ  ยามเช้าที่มีหมอกจาง ๆ กระจายอยู่เต็มไร่สตรอเบอรี่ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา กับอากาศเย็น ๆ สุดสดชื่นที่ชวนให้เราอยากลุกขึ้นมาเดินเก็บ

สตรอเบอรี่สีแดงสดมาทำอาหารเช้าทานกับขนมปัง กาแฟเข้มๆ สักแก้ว 

ใครที่สนใจอยากมากางเต็นท์ซึมซับบรรยากาศทั้งวิวบนเขา และวิวไร่สตรอเบอรี่ สามารถติดต่อสอบถามกับทางรีสอร์ทที่เปิดให้บริการในเมืองสะเมิงได้เลย  มีรีสอร์ทให้เราเลือกบรรยากาศตามแบบที่เราชอบค่อนข้างหลากหลาย

และอีกอย่างคือการจะขึ้นไปดอยม่อนอังเกตุนั้น จำเป็นต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น ซึ่งตามแต่ละรีสอร์ทจะมีให้บริการของส่วนนี้อยู่ค่ะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมไปเยือนสะเมิง แนะนำเป็นช่วงเดือนธันวาคม - กุมภภาพันธ์  เพราะเป็นช่วงที่อากาศหนาว วิวกำลังสวย  และสตรอเบอรี่เริ่มออกลูกบางส่วนแล้วจ้า

 

5 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)

1 ใน Dream destination จุดกางเต็นท์ของเหล่าคู่รัก และใครหลายๆ คนที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ไปกางเต็นท์นอนท่ามกลางต้นซากุระสีชมพูแสนหวานที่กำลังบานสะพรั่ง

ช่วงสายๆ ไปเเดินลอดซุ้มอุโมงค์เสือชมพู ซุ้มอุโมงค์แสนหวานที่มีแสงแดดสาดส่องอย่างสวยงามราวกับเป็นสปอตไลท์ธรรมชาติที่เรารู้สึกราวกับอยู่ในห้วงฝัน

อุโมงค์พญาเสือโคร่งสีชมพูพริ้งแพรว  จะเริ่มเบ่งบานเป็นแถวยาวไปตามถนนเส้นเล็กๆ  ในศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) 

ในช่วงราวเดือนมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ หรือขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่ต้องหนาวมากพอที่จะทำให้ดอกพญาเสือโคร่งผลิบานออกจากดอกตูม

ที่ศูนย์วิจัยฯแห่งนี้  มีลานกางเต้นท์จำนวน 2  ลาน  แต่ละลานสามารถรองรับเต้นท์ราว 100 หลัง โดยเราสามารถนำอุปกรณ์การนอนของเราไปเอง หรือจะใช้บริการเต้นท์ของทางศูนย์วิจัยฯ ก็ได้เลย

แต่ให้ติดต่อจองไปล่วงหน้าก่อนจะดีกว่า เพราะเต้นท์ของทางศูนย์วิจัยฯ มีจำนวนจำกัด   ใกล้ลานกางเต้นท์มีร้านอาหารสวัสดิการให้บริการ และมีห้องน้ำให้เราทำธุระได้อย่างสะดวก ถือว่าเป็น ที่กางเต็นท์เชียงใหม่

ที่ค่อนข้างมีการจัดการที่ดีเลยทีเดียวล่ะ

 

6  ม่อนสน อ่างขาง

จุดกางเต็นท์ ที่วิวสวยงามราววกับภาพวาดอีก 1 จุด ที่คู่รักสายกางเต็นท์ต้องไปปูเสื่อนอนชมวิวทะเลดาวในยามค่ำคืน และตื่นเช้าเปิดเต็นท์มาดูทะเลน้ำนมกันที่หน้าบ้านให้ได้สักครั้งคือที่ ม่อนสน อ่างขาง

ดินแดนหุบเขาสูงที่แสนงดงามและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของชาติพันธุ์  หลังจากพักค้างคืนและชมวิวยามเช้ากันจนเต็มอิ่มแล้ว  เราไม่อยากให้พลาดสวนดอกไม้เมืองหนาว และสวนซากระที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เลย

เพราะที่สถานีแห่งนี้มีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์  และต้นไม้นานาชนิดอยู่พื้นที่กว่าร้อยไร่ ไม่ว่าจะเป็นแปลงดอกกุหลาบ สวนซากุระญี่ปุ่น สวนบอนไซ ดงต้นท้อที่เป็น 1 ในฉากสุดโรแมนติคของภาพยนต์

The Letter แล้วไปดูหมอกหยอกสตรอเบอรี่ ที่ไร่สตรอเบอรี่ขั้นบันไดที่กว้างยาวสุดลูกหูลูกตาที่บ้านขอบด้ง

บริเวณลานกางเต็นท์ม่อนสนนี้  มีห้องน้ำให้บริการค่อนข้างเยอะ แต่ในส่วนของอาหาร และอุปกรณ์การนอนนั้นแนะนำให้เตรียมไปเองจะสะดวกกว่า   และการขับรถขึ้นมายังดอยอ่างขางต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร

ด้วยเส้นทางที่ลาดชันและมีโค้งหักศอกจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ง่าย  หรือหากเรายังขับรถไม่ค่อยแข็ง และไม่ชำนาญเส้นทางขับขึ้นเขา เราอาจเลือกใช้บริการรถสองแถวที่อยู่ก่อนทางขึ้นดอยอ่างขางก็สะดวก

และมั่นใจในความปลอดภัยได้มากกว่า

 

7  ป่าสนวัดจันทร์

กางเต็นท์นอนกลางผืนป่าสนเขียวชะอุ่มที่สวยที่สุดในประเทศไทยและใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ตัดกับสีแดงปนส้มของ ใบเมเปิ้ลสีแดง ที่เปลี่ยนสีสะพรั่งในช่วงราวเดือนพฤศจิกายนของทุกปีที่ “ป่าสนวัดจันทร์”

ช่วงเวลาเช้าผืนป่าเริ่มบิดคลายให้ตัวเองค่อย ๆ ตื่นอย่างช้า ๆ หมอกจาง ๆ เริ่มลอยเหนือทะเลสาบกลางป่าสนวัดจันทร์ แสงสีทองค่อยๆ ทอทาบลงบนผืนป่าสนและเมเปิ้ลสีแดง  เป็นช่วงเวลาที่ทำให้คู่รักหลายคู่ตกหลุมรักกันอีกครั้ง

ที่ป่าสนวัดจันทร์นี้มีร้านค้าสวัสดิการให้บริการ ห้องน้ำก็เพียบพร้อม  สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างพร้อมเลยทีเดียว ใครที่สนใจไปกางเต็นท์ที่ป่าสนวัดจันทร์ แนะนำให้ติดต่อไปจองพื้นที่หรือสอบถามข้อมูลเบื้องต้น

ที่ ออป. ป่าสนวัดจันทร์  หมายเลข 052080993 หรือสอบถามข้อมูลการเดินทางที่เบอร์มือถือ 0861813388

 

8. ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ของเทือกถนนธงชัยซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ทอดยาวมาจากเทือกเขาหิมาลัยของเนปาล เป็นศูนย์กลางของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์และเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ยังประดิษฐานพระมหาธาตุเจดีย์ 2 องค์ คือ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และ พระมหาธาตุนภเมทนีดล

ที่นี้เต็มไปด้วยทะเลหมอกที่รายล้อมไปด้วยสวนหลากสีสันครอบคลุมทั้งภูเขา สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจตั้งแคมป์ค้างคืนที่ดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ให้บริการเช่าเต็นท์และกางเต็นท์พักแรมในพื้นที่ดงสนซึ่งสามารถรองรับได้ นักท่องเที่ยว 300-400 คน กางเต็นท์ได้ที่ผาตั้งและห้วยทรายเหลือง

 

9. ดอยชัวร์ญ่า วิวสวย

ดอยชัวร์ญ่าวิวสวย มีบ้านพักและที่ตั้งแคมป์บริการในพื้นที่ดอยอินทนนท์ สามารถเห็นวิวหมู่บ้านน้ำตกศิริภูมิและภูเขาได้ชัดเจน คุณยังสามารถไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สะดวกมากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เช่น กิ่วแม่ปาน พระมหาธาตุเจดีย์ และน้ำตกสิริภูมิ นอกจากนี้ยังมีสวนสวยในบริเวณที่พักอีกด้วย ใครที่ชื่นชอบในการถ่ายรับประกันว่าได้รูปสวยกลับออกไปแน่นอน

 

10. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีป่าไม้สมบูรณ์และสภาพธรรมชาติ ลุ่มน้ำป่าอัลไพน์ที่ซับซ้อนมีธรรมชาติที่สวยงามและทิวทัศน์ที่ คุณสามารถชื่นชมบรรยากาศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุดชมวิวทะเลหมอกที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม หนึ่งในจุดที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดในประเทศไทย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมียอดเขาที่สวยงามหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น โป่งเดือดและน้ำพุร้อนธรรมชาติ สำหรับกิจกรรมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการล่องแก่งแม่น้ำแม่แตงที่ไม่ควรพลาด

 

11. ดอยหลวงเชียงดาว 

ดอยหลวงเชียงดาว ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว เชียงใหม่ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นสถานที่พระพุทธเจ้า พระองค์เสด็จมาพร้อมกับพระอรหันต์ ๘ พระองค์ สรงน้ำในสลุงทองคำหรือบริเวณอ่างสลุง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 มีนาคม ของทุกปีในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นเขาเป็นระยะเวลา 5 เดือน เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งในธรรมชาติ คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ แต่อาจไม่เคยเดินทางไปกัน ดังนั้นอย่ามัวรอช้า เรารับประกันความสวยงาม เพียงแค่คุณนั่งมองชมวิวก็ถือว่าคุ้มแล้ว

 

12. ดอยผ้าห่มปก

ดอยผ้าห่มปกเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก บนยอดเขาจะมีจุดชมวิว เห็นทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น และจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

ดอยผ้าห่มปก ปกคลุมไปด้วยหมอกและอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีและมีลมแรงมาก เสน่ห์อีกอย่างของดอยผ้าห่มปกก็คือมีพืชและสัตว์หายากและน่าสนใจมากมาย เช่น เทียนหาง บัวทอง ผีเสื้อไกเซอร์อิมพิเรียล ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก เป็นต้น

คุณสามารถเดินขึ้นไปบนยอดเขาที่สูงที่สุดในดอยผ้าห่มปกได้ ห่างจากจุดกางเต็นท์ 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาไป-กลับ 3-4 ชั่วโมง แนะนำว่าต้องมีสุขภาพแข็งแรง เตรียมน้ำไว้ จุดเริ่มต้นทางค่อนข้างชัน ทั้งขึ้นๆ ลงๆ สามารถติดต่อไกด์นำเที่ยวได้ที่ที่อุทยานของลานกางเต้นท์กิ่วลม มีค่าใช้จ่ายท่านละ 300 บาท แต่ผู้ที่ไม่ต้องการพิชิตยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์และบรรยากาศรอบบริเวณเต็นท์ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ แต่อาจมีต้นไม้บังวิวทำให้ไม่เห็นชัดเจนเหมือนอยู่บนยอดเขา