แกรนด์แคนยอน (Grand Canyon) สหรัฐอเมริกา
แกรนด์แคนยอน เป็นดินแดนหินผาและหุบเหว ซึ่งหน้าผามีความสูงถึง 1,600 เมตร และหุบเหวยาวถึง 450 กิโลเมตร และกว้างโดยเฉลี่ย 15 กิโลเมตร อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ชาวยุโรปผู้เข้าสำรวจกลุ่มแรกคือพันตรี จอห์น เวสลีย์ พาวเวลล์ และคณะเมื่อปี ค.ศ. 1869 ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวนับแสนคนในแต่ละปี
แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทะลายของหินเป็นเวลา 990 ล้านปีมาแล้ว เดิมทีแม่น้ำโคโลราโดมีสภาพเป็นลำธารเล็กๆที่ไหลคด เคี้ยวไป ตามที่ราบกว้างใหญ่ที่อยู่ ระดับเดียวกับน้ำทะเล ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจาก แรงดันและ ความร้อนอันมหาศาลภายใต้พื้น โลกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวเทือกเขา กว้างใหญ่ การยกตัว ของแผ่นดินทำให้ทางที่ลำธาร ไหลผ่านลาดชันขึ้นและทำให้น้ำไหลแรงมากขึ้น พัดเอาทรายและตะกอนไปตาม น้ำเกิดการกัดเซาะลึกลงไปทีละน้อยในเปลือกโลก วัดจากขอบลงไป ก้นหุบเหวกว่า 1 ไมล์ (ประมาณ 1,600 เมตร) และอาจลึกว่าสองเท่า ของความหนาของเปลือกโลก ก่อให้เกิดหินแกรนิต หินชั้นแบบต่าง ๆ พื้นดินที่เป็น หินทรายถูกน้ำ และลมกัดเซาะ จนเป็นร่องลึกสลับ ซับซ้อนนานนับล้านปี เป็นแคนยอนงดงามน่าพิศวงเนื่อง จากผลของดินฟ้าอากาศ ความร้อนเย็นซึ่งมีอิทธิพลรอบด้าน
แกรนด์แคนยอน (Grand Canyon) สหรัฐอเมริกา
แกรนด์แคนยอน เป็นดินแดนหินผาและหุบเหว ซึ่งหน้าผามีความสูงถึง 1,600 เมตร และหุบเหวยาวถึง 450 กิโลเมตร และกว้างโดยเฉลี่ย 15 กิโลเมตร อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ชาวยุโรปผู้เข้าสำรวจกลุ่มแรกคือพันตรี จอห์น เวสลีย์ พาวเวลล์ และคณะเมื่อปี ค.ศ. 1869 ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวนับแสนคนในแต่ละปี
แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทะลายของหินเป็นเวลา 990 ล้านปีมาแล้ว เดิมทีแม่น้ำโคโลราโดมีสภาพเป็นลำธารเล็กๆที่ไหลคด เคี้ยวไป ตามที่ราบกว้างใหญ่ที่อยู่ ระดับเดียวกับน้ำทะเล ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจาก แรงดันและ ความร้อนอันมหาศาลภายใต้พื้น โลกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวเทือกเขา กว้างใหญ่ การยกตัว ของแผ่นดินทำให้ทางที่ลำธาร ไหลผ่านลาดชันขึ้นและทำให้น้ำไหลแรงมากขึ้น พัดเอาทรายและตะกอนไปตาม น้ำเกิดการกัดเซาะลึกลงไปทีละน้อยในเปลือกโลก วัดจากขอบลงไป ก้นหุบเหวกว่า 1 ไมล์ (ประมาณ 1,600 เมตร) และอาจลึกว่าสองเท่า ของความหนาของเปลือกโลก ก่อให้เกิดหินแกรนิต หินชั้นแบบต่าง ๆ พื้นดินที่เป็น หินทรายถูกน้ำ และลมกัดเซาะ จนเป็นร่องลึกสลับ ซับซ้อนนานนับล้านปี เป็นแคนยอนงดงามน่าพิศวงเนื่อง จากผลของดินฟ้าอากาศ ความร้อนเย็นซึ่งมีอิทธิพลรอบด้าน