ไจแอนต์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) ไอร์แลนด์
Giant's Causeway ประกอบด้วยเสาหินบะซอลต์มากกว่า 40,000 เสา เสามีความกว้างเฉลี่ย 46 ซม. สูง 1-2 ม. เกิดจากการเย็นตัวของลาวาเมื่อประมาณ 50,000-60,000 ปีที่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้มันเป็นรูปทรงเรขาคณิตสมมาตรได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเนื้อหินบะซอลต์ของลาวาในบริเวณนี้มีความสม่ำเสมอกัน เมื่อลาวาเริ่มแข็งตัว และมีการหดตัวขึ้น แรงหดตัวนี้จะกระจายไปอย่างสม่ำเสมอเท่ากันทั่วทั้งพิ้นผิว และเกิดการแตกร้าวเป็นทรงเรขาคณิต ด้วยความงามตามธรรมชาตินี้เอง ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2529 และในที่สุดก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอร์แลนด์เหนือ
Giant's Causeway ประกอบด้วยเสาหินบะซอลต์มากกว่า 40,000 เสา เสามีความกว้างเฉลี่ย 46 ซม. สูง 1-2 ม. เกิดจากการเย็นตัวของลาวาเมื่อประมาณ 50,000-60,000 ปีที่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้มันเป็นรูปทรงเรขาคณิตสมมาตรได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเนื้อหินบะซอลต์ของลาวาในบริเวณนี้มีความสม่ำเสมอกัน เมื่อลาวาเริ่มแข็งตัว และมีการหดตัวขึ้น แรงหดตัวนี้จะกระจายไปอย่างสม่ำเสมอเท่ากันทั่วทั้งพิ้นผิว และเกิดการแตกร้าวเป็นทรงเรขาคณิต ด้วยความงามตามธรรมชาตินี้เอง ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2529 และในที่สุดก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอร์แลนด์เหนือ
ไจแอนต์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) ไอร์แลนด์
Giant's Causeway ประกอบด้วยเสาหินบะซอลต์มากกว่า 40,000 เสา เสามีความกว้างเฉลี่ย 46 ซม. สูง 1-2 ม. เกิดจากการเย็นตัวของลาวาเมื่อประมาณ 50,000-60,000 ปีที่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้มันเป็นรูปทรงเรขาคณิตสมมาตรได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเนื้อหินบะซอลต์ของลาวาในบริเวณนี้มีความสม่ำเสมอกัน เมื่อลาวาเริ่มแข็งตัว และมีการหดตัวขึ้น แรงหดตัวนี้จะกระจายไปอย่างสม่ำเสมอเท่ากันทั่วทั้งพิ้นผิว และเกิดการแตกร้าวเป็นทรงเรขาคณิต ด้วยความงามตามธรรมชาตินี้เอง ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2529 และในที่สุดก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอร์แลนด์เหนือ