ยามเข้าหน้าร้อน หัวใจก็จะเริ่มกระสับกระส่าย อยากไปหาที่เย็น ๆ ดับคลายความร้อนรุ่มทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่คนสายผจญภัยที่หัวใจเรียกร้องหาการเดินทางจะไปเที่ยวเมืองหิมะจําลองก็ดูไม่ค่อยคูลเท่าไหร่ คนสายอย่างเรามันต้องไปที่มันยาก ๆ ท้าทายกันหน่อย ซึ่งก็คงไม่พ้นการเดินป่า นั่นแหล่ะ
หลายคน พอพูดถึง การเดินป่า มักจะนึกถึง เส้นทางเดินป่าทางภาคเหนือ ออกเป็นภาพแรก ๆ ก็แน่หล่ะ หน้าหนาวใครๆก็อยากไปกอดเขาให้คลายหนาว แล้วถ้าเป็นหน้าร้อนล่ะ? จะไปหาเขาเพิ่มความหนาวที่ไหนดี?
ป่าใต้จรดผืนป่าตะวันออก ผืนป่าดงดิบ สวรรค์ฤดูร้อน
น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้ว ช่วงที่ดีที่สุดของการเดินป่าใต้และผืนป่าตะวันออกคือช่วงฤดูร้อน เพราะด้วยภาพจําที่ว่าภาคใต้ต้องร้อน แสงแดดต้องเปรี้ยง ฝนตกไม่บอกไม่กล่าว แต่เราอาจจะลืมไปว่า ผืนป่ าส่วนมากของ 2 ภูมิภาคนี้เป็นผืนป่าดงดิบ หรือ Tropical Evergreen Forest ซึ่งเป็นป่ารกทึบมองดูเขียวชอุ่มตลอดปีมีพันธุ์ไม้หลายร้อยชนิดขึ้นเบียดเสียดกัน ส่งผลให้มีความชื้นสูง และทําให้อากาศหนาวเย็นนั่นเอง นอกจากนี้ปริมาณฝนที่ตกลงมาน้อยกว่าช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว จึงทําให้เส้นทางการเดินป่าเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น ทากน้อยลง และอากาศหนาวเย็นเหมือนเราไปเดินป่าที่ภาคเหนือในช่วงหน้าหนาว ถึงจะไม่หนาวถึงเลขตัวเดียว แต่ก็ต้องใส่เสื้อกันหนาวล่ะน่า
และนี่คือ 5ที่เดินป่าหน้าร้อน ที่จะทําคุณหนาวสะท้านกลางผืนป่าฤดูร้อน ที่เราอยากจะชวนทุกคนก้าวขาออกจากบ้านไปเดินป่ากัน
1. หนานญี่ปุ่น
เป็นนํ้าตกขนาดใหญ่กลางเทือกเขาบรรทัด จังหวัดพัทลุง เดิมพื้นที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวของคอมมิวนิสต์ เหตุผลที่เรียกว่า หนานญี่ปุ่น เพราะตัวนํ้าตกมีแอ่งนํ้าขนาดใหญ่ไว้สําหรับแช่นอนเล่นได้ ซึ่งเดิมเป็นสถานที่แช่นํ้าของเหล่าคอมมิวนิสต์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่นั่นเอง
เส้นทางนี้เราจะเริ่มเดินจากบ้านกงหรา เดินไต่เขาชันไปเรื่อย ๆ เรียกว่าแทบไม่ได้พักให้มีจังหวะหายใจ ใครจะไปเดินป่าเส้นทางนี้ เรียกได้ว่า ต้องฟิตร่างกายพอสมควร
2. เขาล้อนนมสาว
อีก 1 เช็คพ้อยท์ที่สวยมากของเทือกเขาบรรทัด จังหวัดพัทลุง เป็นยอดเขากว้างโล่งเต็มไปด้วยป่าแคระ ยอดเขาแบ่งกั้นระหว่างจังหวัดตรังและพัทลุง สาเหตุที่บนยอดเขาแทบไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย นั่นก็เพราะลมด้านบนแรงมาก กอไก่ล้านตัว จึงไม่จินตนาการเลยว่าจะเมื่อเราไปถึงยอดเขาแล้ว ช่วงพระอาทิตย์ลับแสงจะหนาวขนาดไหน ในยามเช้าหากเราโชคดี เราอาจะได้เจอทะเลหมอกกันด้วย
3. เขาหลวงนครศรีธรรมราช ยอด1800
เขาปฐมบทแรก ๆ ของสายเดินป่าขั้นต้นที่อยากก้าวขึ้นสู่ระดับแอดวานซ์ เนินที่หลายคนจําขึ้นใจคงหนีไม่พ้น เนินกุหลาบ ชื่อฟังดูคล้ายกับดอกกุหลาบ แต่เนินแห่งนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะจ๊ะ กุหลาบ ในที่นี้กุ เป็นคํากร่อนเสียงมาจากคําว่า กูส่วนหลาบ เป็นภาษาใต้ มีความหมายว่า ยอมแล้ว พอแล้ว รวมกันจึงเป็นคําบอกเล่าถึงความชันของเนินแห่งนี้ได้ดีตลอดเส้นทางเดินเราจะพบกับมอส เฟิร์น กล้วยไม้หลากหลายชนิด ว่ากันว่าผืนป่าแห่งนี้ เป็นสวรรค์แห่งกล้วยไม้เมืองใต้ เพราะได้มีการค้นพบกล้วยไม้ป่าดงดิบของภูมิภาคอินโด-มลายันแทบทุกสกุล รวมแล้วไม่ตํ่ากว่า 300 ชนิด เช่น สิงโตอาจารย์เต็ม เอื้องคีรีวงและสิงโต ใบพัด เขาหลวง ฯลฯซึ่งกล้วยไม้เหล่านี้ล้วนเป็นชนิดพันธุ์ที่ไม่พบในที่อื่นใดในโลกอีก นอกจากผืนป่าแห่งนี้เท่านั้น
4. เนินลมฝน-ผาเหยียบเมฆ- ยอดฝามี
แค่ได้ยินชื่อเนินเขาก็น่าจะพอเดาออกถึงความชื้นและความหนาวเย็นของเนินแห่งนี้ “เนินลมฝน” เนินที่เราแทบจะเดาไม่ได้เลยว่าวันนี้ฟ้าจะเปิดให้เราเห็นวิวกว้าง ๆ ของยอดเขาและผืนป่าไหม? เส้นทางเดินป่าเส้นนี้ เรียกได้ว่าผจญภัยกันสาหัสสากรรจ์กันพอสมควร ทั้งเดิน มุด ลอด ปีน ครบทุกรสชาติ อารมณ์คล้ายกับเราไปอยู่ในหนังจูราสสิคพาร์คยังไงยังงั้น ด้วยลักษณะเส้นทางเดินที่ต้องข้ามห้วยหลายจุด จุดตั้งแค้มป์ ที่ต้องนอนริมนํ้า และส่วนใหญ่เราต้องเดินผ่านผืนป่าโบราณเกือบตลอด 4 วัน 3 คืน เรียกได้ว่า ถึงจะโหดแต่ก็คุ้มค่า
5. เขาหินกูบ
ผืนป่าสุดท้ายแห่งภาคตะวันออก อยู่ในเทือกเขาสอบดาวใต้ จังหวัดจันทบุรี เป็นผืนป่าที่เขียวชอุ่ม และยังคงพบเห็นร่องรอยของสัตว์ป่าได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันเส้นทางเดินป่าเขาหินกูบ เป็นเส้นทางเดินป่าที่อยู่ในลิสต์เดินป่าของใครหลายๆ คน ด้วยอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน และค้างบนเขาเพียงแค่ 1 คืนเท่านั้น แต่ทว่าเส้นทางการเดินนั้นก็ถือว่าท้าทายพอสมควรสําหรับมือใหม่ หรือคนที่แทบไม่ได้ฟิ ตร่างกายก่อนไป เพราะเนินชันมีหลายเนินอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงใกล้จะถึงยอดเขา เดินงัดท้าแรงโน้มถ่วงโลกสนุกกันดีนักแล แต่สําหรับคนที่เตรียมความพร้อมร่างกายมาอย่างดี หรือเคยเดินป่ามาบ้างแล้ว เขาหินกูบ ถือว่าสบายมาก เดินได้พอให้ขาตึงเท่านั้น หากช่วงจังหวะดี ๆ เราอาจได้เจอทะเลหมอกที่จุดชมวิวยามเช้า ลมกลางคืนที่นี่แรงพอสมควร เตรียมเสื้อกันหนาวกันไปด้วยล่ะ
Tip เล็กๆ สําหรับเส้นทางเดินป่าหน้าร้อน
เส้นทางเดินป่าหน้าร้อนทั้ง 5 เส้นทางนี้ เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะกับผู้ที่เคยเดินป่ามาบ้างแล้วพอสมควร หรือต้องเตรียมความพร้อมร่างกายให้ดีก่อนไปเดินป่า เพราะด้วยสภาพเส้นทางที่ชัน และหนักเอาเรื่องแล้ว เรายังต้องแบกสัมภาระกองกลางและสัมภาระส่วนตัวกันเองด้วย (เส้นทางเดินป่าหน้าหนาวหลายเส้นทางมีลูกหาบช่วยแบกของกองกลาง) ดังนั้นอุปกรณ์การ
นอนที่แนะนําสําหรับเส้นทางเดินป่าเหล่านี้จึงควรเป็นเปลเดินป่า และฟลายชีทเปล เพราะนอกจากจะคล่องตัวในการหาที่นอนกลางป่ารกชัฎแล้ว ยังมีนํ้าหนักเบาและเล็กกว่าเต็นท์อีกด้วย