• โตเลโด (Toledo) สเปน
    โตเลโด เป็นเมืองและเทศบาลแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศสเปน ห่างจากกรุงมาดริดไปทางทิศใต้ประมาณ 70 กิโลเมตร โตเลโดเป็นเมืองหลักของจังหวัดโตเลโดและของแคว้นกัสติยา-ลามันชา ในปี ค.ศ. 1986

    องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย

    บุคคลและศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคนต่างเกิดและเคยพำนักอยู่ในเมืองนี้ เช่น การ์ซีลาโซ เด ลา เบกา, พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 และเอลเกรโก ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) เมืองนี้มีประชากร 75,578 คน และมีพื้นที่ 232.1 ตารางกิโลเมตร (89.59 ตารางไมล์)

    โตเลโดเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรวิซิกอท (ในสเปนโบราณ) ตั้งแต่สมัยพระเจ้าลีอูวีกิลด์ และมีฐานะเป็นเมืองหลวงจนกระทั่งชาวมัวร์ (ชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือ) ได้เข้ามายึดครองคาบสมุทรไอบีเรียเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 ภายใต้การปกครองของอาณาจักรกาหลิบแห่งกอร์โดบา โตเลโด (ซึ่งในขณะนั้นมีชื่อเรียกว่า "ตุไลเตละห์" طليطلة) ก็ได้เข้าสู่ยุคทอง ช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองอันยาวนานนี้รู้จักกันในชื่อ "ลากอนบีเบนเซีย" (La Convivencia) หรือการอยู่ร่วมกัน
    โตเลโด (Toledo) สเปน โตเลโด เป็นเมืองและเทศบาลแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศสเปน ห่างจากกรุงมาดริดไปทางทิศใต้ประมาณ 70 กิโลเมตร โตเลโดเป็นเมืองหลักของจังหวัดโตเลโดและของแคว้นกัสติยา-ลามันชา ในปี ค.ศ. 1986 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย บุคคลและศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคนต่างเกิดและเคยพำนักอยู่ในเมืองนี้ เช่น การ์ซีลาโซ เด ลา เบกา, พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 และเอลเกรโก ในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) เมืองนี้มีประชากร 75,578 คน และมีพื้นที่ 232.1 ตารางกิโลเมตร (89.59 ตารางไมล์) โตเลโดเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรวิซิกอท (ในสเปนโบราณ) ตั้งแต่สมัยพระเจ้าลีอูวีกิลด์ และมีฐานะเป็นเมืองหลวงจนกระทั่งชาวมัวร์ (ชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือ) ได้เข้ามายึดครองคาบสมุทรไอบีเรียเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 ภายใต้การปกครองของอาณาจักรกาหลิบแห่งกอร์โดบา โตเลโด (ซึ่งในขณะนั้นมีชื่อเรียกว่า "ตุไลเตละห์" طليطلة) ก็ได้เข้าสู่ยุคทอง ช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองอันยาวนานนี้รู้จักกันในชื่อ "ลากอนบีเบนเซีย" (La Convivencia) หรือการอยู่ร่วมกัน
    1
    14k Reach 0 Comments 0 Shares
  • รอนด้า (Ronda) สเปน
    รอนดาเป็นเมืองในจังหวัดมาลากาของสเปน ตั้งอยู่ประมาณ 105 กม. ทางตะวันตกของเมืองมาลากา ภายในชุมชนปกครองตนเองอันดาลูเซีย มีประชากรประมาณ 35,000 คน ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองและหมู่บ้านที่รวมอยู่ในอุทยานธรรมชาติเซียร์รา เด ลาส นีฟ

    เป็นเมืองที่ผสมผสานความเก่าและยุคใหม่ได้อย่างลงตัว มีทัศนียภาพที่น่าประทับใจด้วย คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในการเดินเที่ยวชมย่านเมืองเก่าและเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ เช่น พลาซ่า เด โตโรส (Plaza de Toros) ที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแห่งประเพณีการสู้วัวกระทิง และ จุดชมวิวที่สะพานใหม่ (Puente Nuevo)
    รอนด้า (Ronda) สเปน รอนดาเป็นเมืองในจังหวัดมาลากาของสเปน ตั้งอยู่ประมาณ 105 กม. ทางตะวันตกของเมืองมาลากา ภายในชุมชนปกครองตนเองอันดาลูเซีย มีประชากรประมาณ 35,000 คน ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองและหมู่บ้านที่รวมอยู่ในอุทยานธรรมชาติเซียร์รา เด ลาส นีฟ เป็นเมืองที่ผสมผสานความเก่าและยุคใหม่ได้อย่างลงตัว มีทัศนียภาพที่น่าประทับใจด้วย คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในการเดินเที่ยวชมย่านเมืองเก่าและเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ เช่น พลาซ่า เด โตโรส (Plaza de Toros) ที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแห่งประเพณีการสู้วัวกระทิง และ จุดชมวิวที่สะพานใหม่ (Puente Nuevo)
    1
    16k Reach 0 Comments 0 Shares
  • อาลัมบรา (Alhambra) สเปน
    อาลัมบรา (สเปน: Alhambra) เป็นพระราชวังและป้อมปราการที่ตั้งอยู่ในเมืองกรานาดา แคว้นอันดาลูเซีย ทางตอนใต้ของสเปนสร้างขึ้นระหว่างปี 1248 ถึง 1354 โดยกษัตริย์มุสลิมมัวร์ สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 1 ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน คำว่า "อาลัมบรา" มาจากคำในภาษาอาหรับว่า "อัลฮัมรออ์" (อาหรับ: الْحَمْرَاء‎, Al-Ḥamrā) แปลว่า "(สิ่ง) ที่มีสีแดง" เพราะตัวป้อมเองนั้นสร้างด้วยหิน ดินเหนียว และอิฐสีแดง และอาคารอื่นๆ ที่สร้างด้วยปูนขาวเป็นส่วนประกอบก็จะปรากฏเป็นสีแดงเช่นกัน สถาปัตยกรรมของ Alhambra ขึ้นชื่อเรื่องงานแกะสลักที่วิจิตรบรรจง ผนัง เสา เพดาน ซุ้มโค้ง และส่วนโค้งล้วนสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ถือเป็นผลงานศิลปะมัวร์ที่ดีที่สุดในขณะนั้น Alhambra ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมมัวร์ แม้ว่าอาลัมบราจะตั้งอยู่บนภูเขาสูง แต่ก็มีระบบบริหารจัดการน้ำที่ดี สร้างคลองส่งน้ำจากล่างขึ้นสู่วังเพื่ออุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาด้านการชลประทานของชาวมัวร์ได้เป็นอย่างดี

    #Alhambra #Spain
    อาลัมบรา (Alhambra) สเปน อาลัมบรา (สเปน: Alhambra) เป็นพระราชวังและป้อมปราการที่ตั้งอยู่ในเมืองกรานาดา แคว้นอันดาลูเซีย ทางตอนใต้ของสเปนสร้างขึ้นระหว่างปี 1248 ถึง 1354 โดยกษัตริย์มุสลิมมัวร์ สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 1 ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน คำว่า "อาลัมบรา" มาจากคำในภาษาอาหรับว่า "อัลฮัมรออ์" (อาหรับ: الْحَمْرَاء‎, Al-Ḥamrā) แปลว่า "(สิ่ง) ที่มีสีแดง" เพราะตัวป้อมเองนั้นสร้างด้วยหิน ดินเหนียว และอิฐสีแดง และอาคารอื่นๆ ที่สร้างด้วยปูนขาวเป็นส่วนประกอบก็จะปรากฏเป็นสีแดงเช่นกัน สถาปัตยกรรมของ Alhambra ขึ้นชื่อเรื่องงานแกะสลักที่วิจิตรบรรจง ผนัง เสา เพดาน ซุ้มโค้ง และส่วนโค้งล้วนสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ถือเป็นผลงานศิลปะมัวร์ที่ดีที่สุดในขณะนั้น Alhambra ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมมัวร์ แม้ว่าอาลัมบราจะตั้งอยู่บนภูเขาสูง แต่ก็มีระบบบริหารจัดการน้ำที่ดี สร้างคลองส่งน้ำจากล่างขึ้นสู่วังเพื่ออุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาด้านการชลประทานของชาวมัวร์ได้เป็นอย่างดี #Alhambra #Spain
    1
    23k Reach 0 Comments 0 Shares
  • Sagrada Familia สเปน
    มันเป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนาและชื่อเต็มคือ Temple Expiatori de la Sagrada Família เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ Antoni Gaudí สถาปนิกชื่อดังชาวคาตาลัน และเป็นเอกลักษณ์ของอารามนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แม้ว่าอาคารจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่มหาวิหารมีความสูง 170 เมตรในสไตล์นีโอโกธิคโดยมีแนวคิดในการกลับคืนสู่ธรรมชาติ ตัวอาคารได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยกระเบื้องโมเสคสไตล์เวนิส ตกแต่งด้วยงานแกะสลักหินหลายพันชิ้นโดยศิลปินชาวสเปน ปัจจุบันมหาวิหารยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 ภายในมหาวิหารใช้เสาสูงรับน้ำหนักแทนการใช้กำแพงแบบโบสถ์ทั่วไป ทำให้ด้านกำแพงสามารถเลือกใช้กระจกที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านได้ เสาสูงออกแบบให้คล้ายต้นไม้ สร้างเป็นรูปเกลียว ด้านบนแตกกิ่งก้านสาขา สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า 2 เท่าของเสาตั้งตรง มีเสาหิน 52 ต้นห่างกัน 7.5 เมตรแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในมหาวิหารแสงและเงาสอดประสานกันและสวยงามมาก ที่นี่ไม่มีมุมมืด แสงตะวันออกเป็นสีฟ้าเย็นในขณะที่แสงแดดเป็น สีส้ม สีม่วงและสีคราม

    #SagradaFamilia #Spain
    Sagrada Familia สเปน มันเป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนาและชื่อเต็มคือ Temple Expiatori de la Sagrada Família เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ Antoni Gaudí สถาปนิกชื่อดังชาวคาตาลัน และเป็นเอกลักษณ์ของอารามนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แม้ว่าอาคารจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่มหาวิหารมีความสูง 170 เมตรในสไตล์นีโอโกธิคโดยมีแนวคิดในการกลับคืนสู่ธรรมชาติ ตัวอาคารได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยกระเบื้องโมเสคสไตล์เวนิส ตกแต่งด้วยงานแกะสลักหินหลายพันชิ้นโดยศิลปินชาวสเปน ปัจจุบันมหาวิหารยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 ภายในมหาวิหารใช้เสาสูงรับน้ำหนักแทนการใช้กำแพงแบบโบสถ์ทั่วไป ทำให้ด้านกำแพงสามารถเลือกใช้กระจกที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านได้ เสาสูงออกแบบให้คล้ายต้นไม้ สร้างเป็นรูปเกลียว ด้านบนแตกกิ่งก้านสาขา สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า 2 เท่าของเสาตั้งตรง มีเสาหิน 52 ต้นห่างกัน 7.5 เมตรแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในมหาวิหารแสงและเงาสอดประสานกันและสวยงามมาก ที่นี่ไม่มีมุมมืด แสงตะวันออกเป็นสีฟ้าเย็นในขณะที่แสงแดดเป็น สีส้ม สีม่วงและสีคราม #SagradaFamilia #Spain
    1
    21k Reach 0 Comments 0 Shares
More Stories
6 อันดับยี่ห้อ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว สำหรับนักเดินทาง
6 อันดับยี่ห้อ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว สำหรับนักเดินทาง
WIHOK.COM
6 อันดับยี่ห้อ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว สำหรับนักเดินทาง
6 อันดับแบรนด์ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว สำหรับนักเดินทาง เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง การมีกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใจได้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ถ้าคุณกำลังวางแผนเที่ยวสุดสัปดาห์หรือต้องเดินทางไปประชุมทางธุรกิจ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้วคือตัวเลือกที่เหมาะสมทั้งด้านความสะดวกและด้านการใช้งาน...
3mil Reach 0 Comments 0 Shares

No results to show

No results to show

No results to show

No results to show

No results to show