วัดขุนอินทประมูล อ่างทอง
วัดนี้ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ชื่อพระสีเมือง วัดในเขตอินทประมูลแห่งนี้เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย สังเกตได้จากซากอิฐบริเวณเดิมคาดว่าจะเป็นวิหารขนาดใหญ่ เนื่องจากพระพุทธไสยาสน์มีความยาวมากกว่า 50 เมตรจึงเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับสอง รองจากพระพุทธไสยาสน์สมุทรปราการ พระพุทธไสยาสน์องค์นี้เดิมประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร แต่ถูกเผาทิ้งไปเหลือ แต่พระพุทธรูปอยู่กลางแจ้งมาหลายร้อยปีแล้ว องค์พระพุทธรูปมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับ พระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี น่าจะสร้างขึ้นในเวลาเดียวกัน

หาดบ่อผุด เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี
หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะสมุย หาดบ่อผุดมีกิจกรรมมากมาย มีกีฬาทางน้ำ ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ ชมวิวทิวทัศน์ของบ้านเก่าแก่ที่ยังคงอยู่และถนนคนเดินในตอนกลางคืน ลักษณะชายหาดโค้งยาว คลื่นลมสงบ เหมาะกับกิจกรรมเล่นกีฬาทางทะเล นอกจากนี้ยังมีทรายสีขาวสะอาดเหมาะแก่การนอนอาบแดดรับลมเย็น ๆ และหาดบ่อผุดยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงโบราณและสะพานปลาอีกด้วย เหมาะแก่การมาเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศความเป็นอยู่ของชาวบ้านและซื้อของฝากและถ้ามาหาดบ่อผุด อย่าลืมแวะทานอาหารที่ร้านอาหารทะเลซึ่งจำหน่ายอาหารทะเลสดๆ หาดบ่อผุดพร้อมเมนูอาหารค่ำสุดพิเศษ

จุดชมวิว ผาจันทร์จรัส เกาะวัวตาหลับ
อยู่บนเกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติทางทะเลหมู่เกาะอ่างทอง หากต้องการชมความงามของผาจันทร์จรัสต้องเดินขึ้นไปบนยอดเขาประมาณ 500 เมตร รวมเวลาที่ต้องใช้ในการถ่ายภาพสวย ๆ ควรมีอย่างน้อย 2 ชั่วโมงระหว่างเส้นทางจะมีจุดพักชมวิวเป็นระยะๆ เมื่อมาถึงจุดชมวิวผาจันทร์จรัส คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ของเกาะที่สวยงามและสามารถชมเกาะต่างๆทั้งน้อยใหญ่และทอดยาวเป็นแนวยาวบนท้องทะเลสีครามได้แบบ 360 องศา แม้ว่าจะมีจุดชมวิวที่อยู่ชั้นล่างและสามารถมองเห็นทะเลได้ แต่ก็สู้จุดชมวิวบนหน้าผาจันจรัสไม่ได้

ทะเลใน สุราษฎร์ธานี
น้ำทะเลสีเขียวมรกตที่มีภูเขาล้อมรอบไม่มีทางออกสู่ทะเล มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เป็นปรากฎการณ์ทางธรณีวิทยา เกิดจากแอ่งหินปูนที่ยุบตัว ทำเลใน

วัดต้นสน อ่างทอง
วัดต้นสนเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร พระนามว่า สมเด็จพระพุทธนวโลกุตตรธัมมบดี ศรีเมืองทอง หรือชื่อย่อว่า สมเด็จพระศรีเมืองทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สูง 9 วา 1 ศอก 19 นิ้ว หล่อด้วยโลหะทั้งองค์ลงรักปิดทอง พระราชสุวรรณโมลี เจ้าอาวาสวัดต้นสนเดิมเริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 2516 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีสวมเกตุสมเด็จพระศรีเมืองทอง เมื่อ 7 มีนาคม 2528 นับเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะขนาดใหญ่ที่สุดองค์แรกและมีพุทธลักษณะที่งดงามอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีวังปลาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย

วัดป่าสว่างบุญ สระบุรี
เป็นสถานที่ที่สงบเงียบเหมาะกับการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากพื้นที่ทางด้านหลังติดกับ เชิงเขามีอากาศที่ เย็นสบาย มาก และมีประชาชนเข้าไปปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สิ่งที่โดดเด่นของวัดป่าสว่างบุญ คือ พระมหาเจดีย์ 500 ยอด มีชื่อเต็มว่า "พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ" มีเจดีย์องค์ประธานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร มีทั้งหมด 9 ชั้น มีบริวาร 500 องค์ มีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีองค์เจดีย์รายองค์เล็กตั้งลดหลั่นกันลงมาอยู่รอบๆทิศ โดยมี ซุ้มประตูทางขึ้นทั้งสี่มุมทำเป็นบันไดขึ้นไปยังองค์เจดีย์ที่ตั้งอยู่ทางด้านบน ตัวองค์เจดีย์เป็นปูนปั้นรูปแบบ สวยงามประณีตเคลือบสีทอง ทั้งหมดทุกองค์ผนังด้านในของเจดีย์องค์ประธานประดับกระจกทับทิม โดยรอบสวยงาม มีภาพพระธาตุเจดีย์สำคัญๆ ทั่วประเทศ ไทยประดับไว้ด้านบนภายในองค์เจดีย์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศเนปาล อินเดีย,ศรีลังกาและสาธารนุชน มาร่วม บรรจุในพระมหาเจดีย์ครบทั้ง 500 ยอด รวมทั้งได้นำพระบรมสารีริกธาตุ และวัตถุมงคล ของมีค่ามาสักการบูชาจำนวนมากบรรจุ อยู่ในพระเจดีย์องค์ประธาน

วัดจองกลาง-จองคำ แม่ฮ่องสอน
วัดจองคำและวัดจองกลาง เปรียบเสมือนวัดแฝด ด้วยตั้งอยู่ในกำแพงเดียวกัน เมื่อมองจากด้านหน้า วัดจองคำ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนวัดจองกลางจะอยู่ทาง ขวามือ วัดจองคำและวัดจองกลางตั้งอยู่กลางเมืองแม่ฮ่องสอน และ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเมืองไทใหญ่แห่งนี้ เพราะนอกจากความงดงาม ทางศิลปะแล้ว วัดทั้งสอง ยังเป็น ศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรม และประเพณีของชาวแม่ฮ่องสอน พื้นที่ด้านหน้าของวัดซึ่งเป็น สวนสาธารณะหนอง จองคำยังเอื้อให้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีตามประเพณีต่าง ๆ ในรอบปีอีกด้วย

วัดหัวเวียง แม่ฮ่องสอน
วัดหัวเวียงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2406 ตั้งอยู่กลางเมืองแม่ฮ่องสอนและเป็นวัดที่ชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนี้ใช้ทำกิจกรรมสำคัญตามประเพณีทางพุทธศาสนา และที่สำคัญไปกว่านั้น วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองอย่าง ‘พระเจ้าพาราละแข่ง’ อีกด้วย

ผาเสด็จ สระบุรี
เป็นหน้าผาที่รัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาประทับเมื่อคราวสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ -นครราชสีมา ไม่เพียงเป็นความงามแปลกตาที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ด้วยรูปลักษณ์ของหน้าผาชง่อนหินที่แทบจะยื่น เข้าไปในบริเวณทางรถไฟ "ผาเสด็จ" ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในด้านการคมนาคม โดยเฉพาะกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพราะเป็นทางผ่านของเส้นทางรถไฟสายพระมหานคร-นครราชสีมาที่ใช้เดินทางเข้าสู่ภาคอีสานและเป็นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย ก่อสร้างโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สถานีรถไฟผาเสด็จอยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพ เป็นระยะทาง 138 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นสถานีรถไฟชั้น 3 และได้มีการบูรณะปรับปรุงภูมิทัศน์รอบบริเวณสถานีให้มีความสวยงามน่าชมเพื่อให้เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี เปิดให้รับชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ +66 3524 6076-7

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า สระบุรี
เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ถูกแยกออกมาให้อยู่ในความดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สาขาสระบุรี) เพื่อความสะดวกในการดูแลนักท่องเที่ยว โดยจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และสถานที่พักแรมสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ริมอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน เชื่อว่าสำหรับคนที่รักการแคมปิ้ง คงรู้จักคุ้นเคยกันดี เรียกว่าอาจมาตั้งแคมป์ ทำอาหารริมน้ำกันหลายครั้ง ชื่อนี้ก็คงคุ้นเคยกันดีในหมู่บรรดานักถ่ายภาพผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพมาโคร เพราะมีแมลงและพืชพันธุ์แปลกๆมากมาย โดยเฉพาะนางเอกของที่นี่ เห็ดแชมเปญสีส้มรูปร่างคล้ายแก้วแชมเปญ ซึ่งหน้าฝนเมื่อไหร่เหล่าบรรดานักถ่ายภาพทั้งหลาย จะเดินเข้าป่าตามล่าถ่ายภาพเห็ดกัน

น้ำตกหมอกฟ้า เชียงใหม่
น้ำตกหมอกฟ้าตั้งอยู่ในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นน้ำตกเสียดฟ้าที่มีชื่อเสียง นี่คือสายน้ำซึ่งไหลจากหน้าผาสูงกว่า 30 เมตรลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ด้านล่าง จนเกิดเป็นหมอกกระจายดูเหมือนหมอกบนท้องฟ้าดังนั้นนี่จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกหมอกฟ้านั่นเอง

ฆูนุงซีลีปัต ยะลา
ตั้งอยู่ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา นอกจาก ทะเลหมอกอันเยอร์เวง ที่มีชื่อเสียงแล้วยังมีจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามอีกหลายแห่งหนึ่งในนั้นคือ ฆูนุงซีลีปัต ทัศนียภาพอันงดงามของทะเลหมอกที่สามารถมองเห็นได้ 360 องศา เมฆหมอกที่สวยงามปกคลุมไปทั่วภูเขา เมื่อหันไปมองก็จะเห็นหมอกสีขาวทอดตัวสุดขอบฟ้าล้อมรอบตัวเรา อาจกล่าวได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย นักท่องเที่ยวที่รักทะเลหมอกต้องไม่พลาด ที่สำคัญสามารถเห็นหมอกหนาได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องรอฤดูหนาว รับรองได้เลยว่าหากใครได้สัมผัสจะเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่รู้ลืม