มนต์สะกดแห่งบาหลี: 26 ที่เที่ยวบาหลีที่คุณต้องไปสักครั้ง! (อัปเดต 2025)

หากคุณกำลังวางแผน เที่ยวบาหลี อยู่ล่ะก็ คุณมาถูกที่แล้ว! บาหลี เกาะสวรรค์ที่ได้รับการขนานนามว่า “เกาะแห่งทวยเทพ” (The Island of the Gods) ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางที่มีทะเลสวย แต่เป็นดินแดนที่ศิลปะ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ได้หลอมรวมเข้ากับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้อย่างลงตัว การเดินทางมา เที่ยวบาหลีด้วยตัวเอง จึงเป็นมากกว่าการพักผ่อน แต่คือการออกเดินทางเพื่อค้นพบความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในทุกตารางนิ้ว

บทความนี้คือ คู่มือเที่ยวบาหลี ฉบับสมบูรณ์ที่เราได้รวบรวม 26 สถานที่สุดมหัศจรรย์ ตั้งแต่วัดวาอารามอันศักดิ์สิทธิ์ นาขั้นบันไดที่เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ไปจนถึงเกาะสวรรค์ที่ซ่อนเร้น เพื่อให้ แผนเที่ยวบาหลี ของคุณกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและตราตรึงใจไปตลอดกาล เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัส “มนต์สะกดแห่งบาหลี” ด้วยกันเลย!

วางแผนเที่ยวบาหลี: เคล็ดลับควรรู้ก่อนเดินทาง

ก่อนจะไปดูลิสต์ ที่เที่ยวบาหลี ทั้ง 26 แห่ง การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด มาดูกันว่ามีอะไรที่ควรรู้บ้าง

• ฤดูท่องเที่ยว: ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนคือช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือนเมษายน – ตุลาคม ซึ่งอากาศจะแจ่มใสและมีแดดจัด เหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้ง
• การเดินทางในบาหลี: วิธีที่นิยมที่สุดคือการเช่ารถพร้อมคนขับ หรือเช่ามอเตอร์ไซค์สำหรับคนที่ชำนาญเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันอย่าง Grab และ Gojek ที่สะดวกสบาย
• ซิมการ์ดและอินเทอร์เน็ต: สามารถหาซื้อซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยวได้ง่ายที่สนามบินหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป สัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่
• วัฒนธรรมและการแต่งกาย: เมื่อไปเยือนวัดวาอาราม ควรแต่งกายสุภาพ (คลุมเข่าและไหล่) โดยส่วนใหญ่จะมีบริการให้เช่าโสร่งและผ้าคาดเอวบริเวณทางเข้า

ตอนที่ 1: ใจกลางแห่งมนต์ขลัง: อูบุดและบริเวณโดยรอบ (Ubud)

อูบุดคือหัวใจทางวัฒนธรรมของบาหลี ที่นี่คือจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนที่ต้องการสัมผัสจิตวิญญาณของเกาะแห่งนี้อย่างแท้จริง

1. นาขั้นบันไดเตกาละลัง (Tegalalang Rice Terraces)

ภาพนาขั้นบันไดสีเขียวมรกตที่ลดหลั่นตามไหล่เขา คือภาพจำอันเป็นเอกลักษณ์ของการ เที่ยวบาหลี ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับระบบชลประทาน “สุบัก” (Subak) ภูมิปัญญาโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ปัจจุบันมีกิจกรรมยอดนิยมอย่างการนั่งชิงช้า Bali Swing หรือถ่ายรูปกับรังนกสวยๆ

2. ป่าลิงอูบุด (Ubud Monkey Forest)

ก้าวเข้าสู่อาณาจักรของลิงแสมหางยาวกว่า 700 ชีวิต ที่อาศัยอยู่ร่วมกับวัดโบราณ 3 แห่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มเงาของป่าศักดิ์สิทธิ์ เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ข้อควรระวัง: ควรเก็บสิ่งของมีค่าให้มิดชิดและไม่สบตากับลิงโดยตรง

3. วัดปุราตามันซารัสวดี (Pura Taman Saraswati)

“วัดน้ำ” ใจกลางเมืองอูบุดที่โดดเด่นด้วยสระบัวขนาดใหญ่ทอดยาวไปสู่เทวสถาน สถาปัตยกรรมที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงแห่งนี้อุทิศแด่เทพีซารัสวดี เทพีแห่งศิลปะและปัญญา เป็นจุดแวะพักที่สงบงามท่ามกลางความคึกคักของอูบุด

4. วัดตีร์ตาเอมปุล (Tirta Empul Temple)

หนึ่งในวัดที่ห้ามพลาดเมื่อมา เที่ยวบาหลี ที่นี่คือวัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเดินทางมาเพื่อประกอบพิธี “เมอลูกัต” ชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ตามความเชื่อที่มีมานับพันปี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมพิธีได้โดยปฏิบัติตามกฎของวัดอย่างเคร่งครัด

5. หมู่บ้านเปิงลีปูรัน (Penglipuran Village)

สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของบาหลี ณ หมู่บ้านโบราณที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สะอาดที่สุดในโลก สถาปัตยกรรมและผังหมู่บ้านที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี คุณสามารถเดินเล่นและพูดคุยกับชาวบ้านได้อย่างเป็นกันเอง

6. วัดกุนุงกาวี (Gunung Kawi Temple)

ย้อนรอยประวัติศาสตร์สู่ศตวรรษที่ 11 กับอนุสรณ์สถานและวัดเก่าแก่ที่แกะสลักเข้าไปในหน้าผาหินขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าเป็นสุสานของราชวงศ์โบราณ การเดินทางลงบันไดกว่า 300 ขั้นจะนำคุณผ่านทิวทัศน์ทุ่งนาที่สวยงาม

7. น้ำตกเตเกนุงัน (Tegenungan Waterfall)

พักผ่อนหย่อนใจไปกับพลังของธรรมชาติ ณ น้ำตกขนาดใหญ่ที่เข้าถึงง่าย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอูบุด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำหรือนั่งชมความงามเพื่อเติมความสดชื่น มีจุดชมวิวและคาเฟ่หลายแห่งในบริเวณใกล้เคียง

ตอนที่ 2: สู่ขุนเขาและทะเลสาบ: มนต์เสน่ห์แห่งบาหลีตอนกลาง

ออกจากอูบุด มุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อพบกับทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟ ทะเลสาบ และนาขั้นบันไดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

8. นาขั้นบันไดจาตีลูวิห์ (Jatiluwih Rice Terraces)

“มหาสมุทรสีเขียว” คือคำนิยามของนาขั้นบันไดที่ใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของบาหลี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และเป็นภาพที่จะทำให้คุณต้องตะลึงในความยิ่งใหญ่ เหมาะสำหรับการขับรถชมวิวหรือเช่าจักรยานปั่นสัมผัสบรรยากาศ

9. ภูเขาบาตูร์ (Mount Batur)

สำหรับสายผจญภัย การเดินป่าขึ้นภูเขาไฟบาตูร์ที่ยังคงคุกรุ่นเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลหมอก คือประสบการณ์การ เที่ยวบาหลี ที่จะอยู่ในความทรงจำของคุณไปตลอดชีวิต ต้องใช้ไกด์ท้องถิ่นในการนำทางและควรจองล่วงหน้า

10. ประตูฮันดารา (Handara Gate)

ประตูสไตล์บาหลีดั้งเดิมขนาดใหญ่ที่เป็นทางเข้าสนามกอล์ฟ แต่ได้กลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ด้วยฉากหลังที่เป็นภูเขาเขียวขจีและม่านหมอกที่สวยงาม ปัจจุบันมีค่าบริการสำหรับการถ่ายภาพ

11. วัดปุราอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan)

วิหารกลางน้ำอันงดงามราวภาพฝัน ตั้งอยู่ริมทะเลสาบบราตัน (Bratan) ซึ่งมักมีหมอกปกคลุมอยู่เสมอ เป็นหนึ่งในภาพที่สวยงามและสงบที่สุดของบาหลี และยังเป็นภาพที่อยู่บนธนบัตร 50,000 รูเปียห์ของอินโดนีเซียอีกด้วย

ตอนที่ 3: ตำนานแห่งทิศบูรพาและทิศใต้

ตะวันออกและตอนใต้ของบาหลีเต็มไปด้วยวัดศักดิ์สิทธิ์ริมหน้าผา ภูเขาไฟที่สูงที่สุด และพระราชวังน้ำอันงดงาม

12. ติรตากังกา (Tirta Gangga)

พระราชวังน้ำเก่าแก่ที่มีสวนสวยงาม สระบัว และทางเดินบนแผ่นหินในสระน้ำ ให้คุณได้เดินเล่นท่ามกลางฝูงปลาคาร์ปสีสันสดใส เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพสวยๆ

13. ตามันอูจุง (Taman Ujung)

พระราชวังน้ำอีกแห่งที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมบาหลีและยุโรปเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว มีทิวทัศน์ที่สวยงามมองเห็นทั้งทะเลและภูเขา

14. ภูเขาอากุง (Mount Agung)

ภูเขาไฟที่สูงและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในบาหลี เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของเกาะ และเป็นฉากหลังอันทรงพลังของสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งทางตะวันออก

15. วัดเลมปูยัง (Lempuyang Temple)

วัดบนภูเขาสูงที่มีชื่อเสียงจาก “ประตูสวรรค์” (Gates of Heaven) ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพที่มองเห็นภูเขาอากุงได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นภาพที่ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองเมื่อมา เที่ยวบาหลี เคล็ดลับ: ควรไปถึงแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงการรอคิวถ่ายรูปที่ยาวนาน

16. วัดเบซากีห์ (Besakih Temple)

“วัดแม่” (The Mother Temple) วัดที่ใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในบาหลี ประกอบด้วยวัดย่อยๆ กว่า 86 แห่ง ตั้งอยู่บนไหล่เขาอากุงอันยิ่งใหญ่ ควรใช้บริการไกด์ท้องถิ่นเพื่อทำความเข้าใจประวัติและความสำคัญของแต่ละส่วน

17. อุทยานวัฒนธรรมการูดา วิสนุ เกนคานา (GWK Cultural Park)

ที่ตั้งของรูปปั้นพระวิษณุขี่พญาครุฑขนาดมหึมา ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปปั้นที่สูงที่สุดในโลก เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของบาหลีสมัยใหม่ นอกจากรูปปั้นแล้วยังมีพื้นที่จัดแสดงทางวัฒนธรรมและคอนเสิร์ตอีกด้วย

18. วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple)

วัดที่ตั้งอยู่บนปลายหน้าผาสูงชันริมมหาสมุทรอินเดีย มีชื่อเสียงด้านการแสดงระบำเกจัก (Kecak Dance) ตอนพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจ ควรจองตั๋วล่วงหน้าเพราะการแสดงเป็นที่นิยมมาก

19. วัดทานาล็อต (Tanah Lot Temple)

วัดบนโขดหินกลางทะเลอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามและโด่งดังที่สุดของบาหลี ช่วงน้ำลดสามารถเดินข้ามไปสักการะที่ฐานของโขดหินได้

ตอนที่ 4: ข้ามสมุทรสู่สวรรค์: หมู่เกาะนูซา (Nusa Islands)

การ เที่ยวบาหลี จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ข้ามมาสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์และน่าทึ่งของหมู่เกาะนูซาที่อยู่ใกล้ๆ

20. เกาะนูซา เปนิดา (Nusa Penida)

เกาะที่ใหญ่ที่สุดและเต็มไปด้วยการผจญภัย มีทิวทัศน์ของหน้าผาและชายหาดที่งดงามจนแทบหยุดหายใจ การเดินทางบนเกาะค่อนข้างลำบาก ควรวางแผน แผนเที่ยวบาหลี สำหรับโซนนี้เป็นแบบ One Day Trip หรือพักค้างคืน

21. หาดเกลิงกิง (Kelingking Beach)

ไฮไลท์ของนูซา เปนิดา กับชายหาดที่มีหน้าผาเป็นรูปคล้ายไดโนเสาร์ T-Rex เป็นภาพที่โด่งดังไปทั่วโลก ทางเดินลงไปยังชายหาดค่อนข้างสูงชันและท้าทาย

22. แองเจิลส์ บีลาบอง (Angel’s Billabong)

สระน้ำธรรมชาติริมทะเลที่ใสราวกระจก เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นอย่างน่าอัศจรรย์ สามารถลงเล่นน้ำได้เฉพาะช่วงที่คลื่นลมสงบและน้ำลงเท่านั้น

23. บรอกเคน บีช (Broken Beach)

อ่าววงกลมที่มีอุโมงค์โค้งให้ทะเลลอดผ่าน เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้ และเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก

24. มันตา พอยต์ (Manta Point)

จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกเพื่อชมกระเบนราหู (Manta Ray) ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล ต้องอาศัยการจองทัวร์ดำน้ำเพื่อมายังจุดนี้

25. เกาะนูซา เล็มโบงัน (Nusa Lembongan)

เกาะที่เงียบสงบกว่า เหมาะแก่การพักผ่อน ทำกิจกรรมทางน้ำอย่างพายเรือคายัค หรือเล่นเซิร์ฟ มีที่พักและร้านอาหารบรรยากาศดีหลายแห่ง

26. เกาะนูซา เซนิงัน (Nusa Ceningan)

เกาะที่เล็กที่สุด เชื่อมกับเกาะเล็มโบงันด้วยสะพานสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ มีบาร์ริมหาดและจุดชมวิวที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการเที่ยวบาหลี

• เที่ยวบาหลีกี่วันดี?แนะนำอย่างน้อย 4-5 วันเพื่อเที่ยวชมไฮไลท์หลักๆ ในโซนใต้และอูบุด หากต้องการไปหมู่เกาะนูซาหรือสำรวจทางเหนือและตะวันออก ควรมีเวลา 7-10 วัน
• เที่ยวบาหลีเดือนไหนดีที่สุด?ช่วงที่ดีที่สุดคือเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด แต่ก็เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุดเช่นกัน หากต้องการหลีกเลี่ยงความแออัด เดือนเมษายน-พฤษภาคม และกันยายน-ตุลาคม ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
• งบประมาณเที่ยวบาหลีประมาณเท่าไหร่?บาหลีมีตัวเลือกหลากหลายตั้งแต่นักเดินทางแบบประหยัดไปจนถึงแบบหรูหรา โดยเฉลี่ยแล้วงบประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 3,000 บาทต่อคนต่อวัน (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)

บทสรุป: บาหลีมีมนต์สะกดในแบบของคุณ

ทั้ง 26 สถานที่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมนต์เสน่ห์ที่บาหลีมีให้ค้นหา ไม่ว่าคุณจะเป็นสายวัฒนธรรม สายธรรมชาติ หรือสายผจญภัย เกาะแห่งนี้มีทุกสิ่งที่จะตอบสนองและสร้างความประทับใจให้คุณได้อย่างแน่นอน

หวังว่า รีวิวบาหลี และคู่มือฉบับนี้จะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นประโยชน์ในการวางแผน เที่ยวบาหลี ในฝันของคุณนะคะ! แล้วคุณล่ะ สถานที่ไหนในบาหลีที่อยากไปเยือนมากที่สุด? ร่วมพูดคุยกันได้ในคอมเมนต์เลย!